ระบบควบคุมสินค้าคงคลัง / AutoCount Accounting : Stock

ข้อมูลเพิ่มเติมของระบบควบคุมสินค้าคงคลัง (ข้อมูลส่วนใหญ่จะถูกส่งมาจากระบบซื้อและระบบการผลิต และระบบขายสินค้า)


1.สามารถเลือกวิธีการคิดต้นทุนได้ 5 แบบ ได้แก่


  a.แบบกำหนดคงที่ (Fixed Cost)


  b.แบบต้นทุนถัวเฉลี่ย (Weighted Average)


  c.แบบเข้าก่อนออกก่อน (FIFO = First-In-First-Out)


  d.แบบเข้าหลังออกก่อน (LIFO = Last-In-First-Out)


  e.แบบใช้จาก cost ล่าสุด (Most Recently)


2.สามารถกำหนดวิธีการคิดต้นทุนแยกตามสินค้าแต่ละตัวได้


3.สามารถกำหนดคลังสินค้าได้หลายคลัง โดยไม่จำกัดจำนวน


AutoCountStockLocation

4.สามารถกำหนดหน่วยนับซื้อ, หน่วยนับขาย ต่างกับหน่วยนับหลักได้ (หน่วยนับที่เก็บไว้ในสต๊อคและเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด) แต่ต้องมีอัตราส่วนที่สัมพันธ์กับหน่วยนับหลัก และมีทศนิยมได้ถึง 8 ตำแหน่ง


AutoCountStockMultiUOM

5.สินค้าที่มีหน่วยมากกว่า 1 หน่วยสามารถกำหนดการแสดงรายงาน เช่น หน้า stock card ให้แสดงได้ 2 แบบคือ


  a.แปลงหน่วยใหญ่แสดงเป็นหน่วยย่อยทั้งหมด


  b.แสดงเป็นหน่วยตามจริงที่มี เช่น ยอดคงเหลือ 5 ตัน 400 กิโลกรัม


6.ระหว่างการใช้งานหากของในหน่วยสินค้าที่ต้องการไม่พอใช้ระบบสามารถทำการแปลงหน่วยอื่นที่ยังมีของของสินค้านี้มาเติมให้อัตโนมัติ เช่น ของเหลือ 2 ตันกับ 150 กิโลกรัม จะทำการผลิตใช้ของ 200 กิโลกรัม ระบบจะแปลงหน่วยตันที่มีอยู่ให้เป็นกิโลเท่าที่ต้องการใช้ ผลหลังจากแปลงหน่วยคือ 1 ตันกับ 1,150 กิโลกรัม


7.สามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ยอดสินค้าติดลบได้หรือไม่ ถ้าติดลบได้ (เปิดบิลไปก่อน) เมื่อบันทึกรับสินค้าเข้า ระบบจะกระทบยอดสินค้าและต้นทุนย้อนหลังให้เองโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะมีการเปิดบิลขายไปแล้วซักกี่ใบก็ตาม


8.สามารถกำหนดสิทธิผู้ใช้งานในการทำกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสต็อคได้อย่างละเอียด เช่น สิทธิการตัดขายสินค้า สิทธิการโอนสินค้า สิทธิการทำนับสต็อคสินค้า เป็นต้น


AutoCountStockAccessRight

9.สามารถเก็บข้อมูลสินค้าได้ทุกประเภท เช่น สินค้าสำเร็จรูป, วัตถุดิบ, สินค้ากึ่งสำเร็จรูป, สินค้าบริการ, ของใช้สิ้นเปลือง โดยระบบมีหมวดหมู่ให้สามารถจัดแบ่งสินค้าได้ 5 แบบ เพื่อสะดวกในการเรียกใช้งานและแสดงรายงาน


  a.กลุ่มสินค้า (Item Group)


  b.ประเภทสินค้า (Item Type)


  c.แบรนด์สินค้า (Item Brand)


  d.หมวดหมู่สินค้า (Item Category)


  e.คลาสสินค้า (Item Class)


AutoCountStockAnalysis

10.สามารถจัดกลุ่มการบันทึกบัญชีสินค้าได้ เช่น บัญชีสินค้าสำเร็จรูป บัญชีวัตถุดิบ


11.สามารถกำหนดนโยบายราคาขายของสินค้าได้หลายวิธี


  a.กำหนดราคามาตรฐานได้ 6 ระดับ


  b.กำหนดราคาตามสกุลเงินได้


  c.กำหนดราคาขายตามที่ตั้ง (Location) ได้


  d.กำหนดราคาขายตามลูกค้าได้


  e.กำหนดราคาขายเป็นกลุ่มราคา (Price Category) ได้


  f.กำหนดราคาตามจำนวนที่ซื้อได้ เช่น ซื้อ 2 ชิ้นขึ้นไป ลด 5 บาท หรือ ซื้อ 10 ชิ้นขึ้นไปคิดราคาชิ้นละ 150 บาท


12.สามารถกำหนดให้ของแถมได้ เช่น ซื้อ 10 ชิ้นแถม 1 ชิ้น


13.สามารถทำการเบิกหรือรับเข้าสต๊อคที่ไม่ได้มาจากการซื้อ การขาย หรือการผลิตได้ เช่น เบิกสินค้าไปทดสอบ รับสินค้าได้มาฟรี


14.สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบของเอกสารการเบิกหรือรับสินค้าได้


15.มีระบบควบคุมการตรวจนับสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว และถูกต้อง


16.สามารถปรับเปลี่ยนรหัสสินค้าได้ตลอดเวลา


17.สามารถค้นหาข้อมูลตามรหัสสินค้า หรือชื่อสินค้า และมี Look up ในกรณีที่จำรหัสไม่ได้


AutoCountStockLookUpEdit

18.รองรับการกำหนดสินค้าที่มี Serial No. และ Batch No.


19.รองรับการใช้งาน Barcode


AutoCountStockBarcode

20.สามารถกำหนดจำนวนสต็อคต่ำสุด และจำนวนสต็อคสูงสุดแยกตามหน่วยของสินค้าได้ รวมถึงสามารถกำหนดจำนวนของระดับปกติ (Normal Level) เพื่อใช้คิดระดับสุขภาพของสต็อค


21.สามารถกำหนดจุดสั่งซื้อ (Re-order Level) และปริมาณที่ต้องสั่งซื้อ (Re-order Qty) ได้


22.ระบบสามารถแสดงข้อมูลระดับสุขภาพของสต็อคได้ 6 ระดับ (ประมวลผลจากข้อมูลที่กำหนดข้อ 20-21)


  a.Critical Level


  b.Re-order Level


  c.Low Level


  d.Healthy Level


  e.High Level


  f.Back order Level


AutoCountStockStatus

23.ระบบสามารถแสดง ปริมาณสินค้าแบบต่างๆ เพื่อช่วยในการวางแผนงาน ดังนี้


  a.Balance Qty จำนวนสต็อคที่มีในระบบ


  b.On Hand Qty จำนวนสต็อคที่มีในระบบหักด้วยจำนวนฝากขาย (หากไม่ได้ใช้ระบบฝากขาย Balance Qty และ On Hand Qty จะเท่ากันเสมอ)


  c.Available Qty จำนวนสต็อคที่ปลอดภัยนำไปใช้ได้ คิดจาก On Hand หักด้วยจำนวนที่เตรียมจะตัดออกไป เช่น จำนวนจากใบสั่งขาย (Sales Order), จากใบสั่งผลิตส่วนวัตถุดิบ (Assembly Order)


  d.Forecast Qty จำนวนสต็อคคาดการณ์ในอนาคต คิดจาก Available Qty เพิ่มด้วยจำนวนที่เตรียมจะรับเข้า เช่น จากใบสั่งซื้อ (Purchase Order), จากใบสั่งผลิตส่วนสินค้าสำเร็จรูป (Assembly Order)


24.สามารถดูข้อมูล ปริมาณสินค้าแบบต่างๆ, ปริมาณค้างรับ, ปริมาณค้างส่ง ของสินค้าแต่ละตัวแยกตามหน่วยตามคลัง สามารถดูประวัติเอกสารทั้งหมดที่เคยอ้างถึงสินค้านี้ พร้อมทั้งสามารถดูอายุลูกหนี้เจ้าหนี้ของเจ้าที่ระบุในเอกสารนั้นๆ โดยทั้งหมดนี้ดูได้ภายในหน้าเดียว


25.สามารถเลือกได้ว่าเมื่อทำการขายหรือเบิกสินค้า ที่ยอดคงเหลือต่ำกว่าจุดสั่งซื้อ ต้องการให้เตือนหรือไม่


26.สามารถแจ้งเตือนเมื่อสินค้าไม่พอใช้ และแนะนำให้ใช้สินค้าทดแทน (Item Replacement) กรณีที่ได้กำหนดสินค้าทดแทนให้กับสินค้านั้นๆ ไว้ก่อนล่วงหน้า


27.มีช่องใส่ข้อมูลต่างๆ ของสินค้ามาก เช่น รายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม, น้ำหนักสินค้า, ชั้น (Shelf), หมายเหตุ และสามารถสร้างช่องใส่ข้อมูลเพิ่มได้เองไม่จำกัด


28.สามารถใส่รูปภาพสินค้า, ลิงค์ไฟล์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับสินค้าได้


29.รองรับสินค้าที่อยู่ในกลุ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)อัตราปกติ และกลุ่มที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม


30.รองรับการขายสินค้าเป็นชุด (Item Package) เช่น การจัดชุดของขวัญ


  a.เมื่อบันทึกการขาย ระบบจะตัดสต๊อคสินค้าส่วนประกอบที่อยู่ในชุดให้เองอัตโนมัติ


  b.เมื่อทำการซื้อ โปรแกรมจะทำการแตกย่อยเป็นส่วนประกอบและเพิ่มในสต็อคให้ทันที


  c.สินค้าชุด 1 ชุด มีส่วนประกอบได้ไม่จำกัด


  d.การเพิ่มสินค้าชุดใหม่ที่มีส่วนประกอบคล้ายกับสินค้าชุดเดิม สามารถก๊อปปี้สินค้าชุดเดิมมาแก้ไข-เพิ่มเติมได้ทันที


  e.สามารถกำหนดให้พิมพ์แสดงสินค้าส่วนประกอบในเอกสารต่างๆได้ เช่น ใบเสนอราคา ใบส่งของ ใบกำกับภาษี/ใบเสร็จได้, ใบสั่งซื้อ


  f.สามารถเลือกได้ว่าต้องการแสดงราคาขายที่ตัวสินค้าชุด หรือที่ส่วนประกอบ


AutoCountStockPackage
AutoCountStockSalePackage

31.ระบบสามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการซื้อหรือนำเข้า มาเฉลี่ยเป็นต้นทุนสินค้าได้ เช่น ค่าขนส่ง, ค่าภาษีสรรพสามิต, อากรขาเข้า ฯ


32.หน้าทำรายการต่างๆ ที่เกี่ยวกับสต็อคสามารถกดดูข้อมูลต่างๆ ของสินค้านั้นๆได้ทันที เช่น ยอดคงเหลือ ประวัติการซื้อขาย รวมถึงสินค้าทดแทน ทำให้ทราบคำตอบทันทีโดยไม่จำเป็นจะต้องออกจากหน้างานที่กำลังทำอยู่


AutoCountStockInfo

GO TO TOP / กลับไปที่ด้านบน